รีวิวญี่ปุ่น | แจกแพลนเที่ยวญี่ปุ่น โซนโทโฮคุ ช่วงใบไม้เปลี่ยนสี สวยมากๆ
ภูมิภาคโทโฮคุ เป็นอีกหนึงโซนที่เที่ยวได้ทุกฤดู เรียกได้ว่า เที่ยวได้ทั้งปี สวยแตกต่างกันไป แต่วันนี้เราจะมาแชร์แพลนทริป ที่เรียกได้ว่า เป็นอีกหนึ่งทริปที่เราชอบมากๆ
🍁 แจกแพลนทริปใบไม้เปลี่ยนสี
เดือนตุลาคม จ้า🍁
ภูมิภาค Tohoku ช่วงเดือน ต.ค. ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมาก สวยสุดๆ
ใบไม้เปลี่ยนสลับๆกันทั้ง แดง ส้ม เขียว ปกคลุมไปทั่วทั้งหุบเขา
เป็นอีกหนึ่งจุด dreamdestination ที่เราสองคนอยากไปมากๆ
ส่วนญี่ปุ่นรอบนี้ รอบที่เท่าไหร่ไม่รู้ แต่รอบนี้ไม่เหมือนเดิม เพราะเราจะไป Roadtrip กันจ้า ทริปนี้เป็นทริปที่ยาวที่สุดที่เราเคยไปมา ไปถึง10วันด้วยกัน โดยเราจะขับรถเที่ยวที่ภูมิภาค Tohoku เป็นหลัก แอบแวะไปทุ่งโคเชียที่ Hitachi seaside park แล้วไปต่อ Kamikochi เลยกลายเป็นทริป
✅Tokyo-Tohoku-Tokyo-Matsumoto-Kamikochi-Nagoya
ไปดูกัน ทริปนี้ไปไหนมาบ้าง แพลนเที่ยวไหนกัน ไปเจออะไรกันมา
บอกเลยพีคๆทั้งนั้น ⬇️⬇️
🚗Day 0
ดอนเมือง – นาริตะ
XJ600 23.55 – 08.00
🚗Day 1 // 📍NARITA-TOKYO-NIKKO
– ถึงสนามบินนาริตะ เราแวะไปรับ JR PASS ก่อน ที่เราจองมาจาก KLOOK เพราะเราจะเริ่มใช้กันเลยตั้งแต่นั่งรถไฟเข้าเมือง โดยนั่ง N’EX ไปลงสถานีโตเกียวกันก่อนจ้า
-จากสถานีโตเกียว เราไปเที่ยว Nikko กันเลยตั้งแต่วันแรก เพราะเวลายังเหลือพอเที่ยวได้ นั่งรถไฟประมาณ 2 ชม.
-ไปถึง Nikko เนื่องจากไปกันหลายคน เลยตัดสินใจเช่ารถดีกว่า คุ้มกว่าสบายกว่า แต่เพราะเราเปลี่ยนวันมา จากตอนแรกจะไปอีกวันเรายกเลิกอีกวัน ละมาวันนี้แทน เราเลยต้องไปหารถเอาดาบหน้า 555 ส่วนใหญ่คือต้องจองล่วงหน้า แต่เรายังโชคดีได้รถที่ Toyota rent a car โชคดีที่มีรถ แต่โชคร้ายที่ฝนตกหนักจ้า แต่เราก็ขับไปดูนะ น้ำตกเคงง(Kegon Waterfall) งงสมชื่อเลย งงว่าเรามาทำไม 55555 คือฟ้าปิดแบบหมอกลงมองไม่เห็นทางเลย ได้แต่ขึ้นเขาไปกินไอติมแล้วกลับ คืนรถเช่า แล้วกลับโตเกียว แบบงงๆกันไป วันแรก 😭
🏨พักที่ Hotel Sunny (Nippori Station)
🚗Day 2 //📍AOMORI
-วันนี้เป็นวันแรกที่เราจะไป Tohoku กัน
โดยเริ่มจากนั่งชินคันเซน จาก Ueno ไป Shin-Aomori แต่ช้าก่อน ตั๋วที่ได้เป็นตั๋วยืน เพราะเต็มยาวจนถึงเย็นเลย omg!! แต่ไม่แย่นะบอกเลย สบายกว่าที่คิด 5555
-ไปรับรถที่ Nippon rent a car เราจองรถไว้ที่สาขาตรงข้าม สถานี Shin-Aomori แต่ในวันที่ฉันโดนพายุเข้า แค่ตึกอยู่ข้างหน้า ฉันยังต้องนั่งแท๊กซี่ไปเอารถ บ้าจริง😱
-ฝนตกหนักแบบจริงจังมาก แพลนที่คิดไว้พังจ้า เลยเปลี่ยนไปขึ้นกระเช้า Hakkoda อีกวันแทน เลยได้แต่ขับรถหาของกิน ช้อปปิ้งกันปายยยย
🏨พักที่ Richmond Hotel Aomori
🚗Day 3 // 📍HAKKODA ROPEWAY – JOGAKURA BRIDGE
-วันนี้ฝนหยุดแล้วจ้า ได้เที่ยวแล้วน้ำตาจะไหล วันนี้เรารีบไปขึ้นกระเช้าที่ Hakkoda Ropeway 🚠 เพราะวันนี้คนน่าจะเยอะ เพราะฝนตกมาหลายวัน เราไปถึงเป็นคนแรกๆไปรอขึ้นรอบแรกเลย แต่หมอกหนามากขาไป แต่ยังโชคดีแดดออกขากลับ บอกเลยว่าสวยมาก แบบใบไม้เปลี่ยนสีกำลังพีคจริงๆ ทั้งภูเขาเลยจริงๆ ต้องเรียกว่า มุมในฝันได้ไปแล้วจ้า
-หลังจากลงจากกระเช้า ขับรถไปต่อที่ Jogakura bridge มุมสะพานยอดฮิตอีกที่ในฮักโกดะ ใบไม้เปลี่ยนสีสวยมากๆถึงแม้จะยังไม่พีค แต่ก็ถือว่าสวยแล้วจ้า
-คืนรถที่ Shin-Aomori
🚄นั่งชินคันเซนไป Morioka
-ไปถึงสถานี Morioka รับรถที่จองไว้
แล้วก็ขับตรงไปที่พักเลย เพราะมืดมากแล้ว
ฤดูนี้ 5โมงเย็น นึกว่า 3ทุ่ม 😂
🏨พักที่ Tazawa lake resort & onsen
🚗Day 4 // 📍HACHIMANTAI
-เช้ามา เราขับรถไปดูที่ทะเลสาป Tazawa ก่อน แต่ใบไม้ไม่เปลี่ยนสีเลยจ้า เลยไม่แวะ แล้วขับต่อไป Hachimantai เลย ถนนที่ขับไป เส้นนี้สวยมากๆ ใบไม้เปลี่ยนสีตลอดทาง และมีวิวลำธาร ต่างๆให้ชมตลอด สวยพีคเว่อร์ และก็ผ่าน เขื่อนTamagawa บอกเลยสวยโคตร
-ขับมาก็แวะถ่ายรูปตามทางจนไปถึง Onuma Pond ใบไม้เปลี่ยนสีกำลังพีคเลย และไปต่อที่ Goshogake onsen
-ส่วน Tamagawa Onsen ไม่ได้แวะเพราะไม่ทันอีกแล้วจ้า เพราะต้องรีบไปคืนรถแว้วว
-คืนรถที่สถานี morioka
🚄นั่งชินคันเซนไป Fukushima
🏨พักที่ Richmond HotelFukushima
🚗Day 5 // 📍FUKUSHIMA
-ไปรับรถที่ สถานีFukushima
แต่!!ฝนตกหนักอีกแล้วจ้า
แพลนที่นี่ทั้งหมดเลยพัง ยกเลิกทั้งหมด
ถ้าอากาศดีๆ ไปแพลนตามนี้ได้เลยจ้า
-Bandai Azuma Sky Line
-Bandai Azuma Lake Line
-Goshiknuma Urabandai
🏨พักที่ Richmond Hotel Fukushima
🚗Day 6 // 📍HITACHI SEASIDE PARK
🚄 นั่งรถไฟจาก Fukushima-Ueno-Katsuta
-วันนี้เป็นวันเดียวที่แดดออก ฟ้าใส จากที่เราดูพยากรณ์มาทั้งอาทิตย์ เราเลยเลื่อนจากที่จะไปฮิตาชิวันแรก มาเป็นวันนี้แทน แล้วก็ไม่ผิดหวัง แดดออกจ้า เย้!!!!!!!
-ส่วนการเดินทางไปสวน Hitachi seaside park นั้นไม่ยากเลย นั่งรถไฟไปลงสถานี Katsuta แล้วออกจากสถานี เดินมาแถว Lawson จะมีโต้ะขายตั๋วรถบัสชึ้นตรงนั้นได้เลยค่า
**ค่ารถบัสไปกลับ+ค่าเข้า 1,080 เยน
-ช่วงที่เราไปโคเชีย สีแดงกำลังแดงสดพีคๆ ส่วนใหญ่จะพีคช่วงกลางเดือนตุลาคาม ของทุกปีค่ะ แต่ปีนี้ถือว่าสวยน้อยหน่อย เพราะโดนพายุฮากิบิสถล่มไป ต้นโคเชียเลยล้มไปค่อนข้างเยอะ แต่ก็ยังถ่ายรูปออกมาสวย ไม่ผิดหวังเลยค่า
🏨พักที่ Hotel Sunny (Nippori Station)
🚗Day 7 // 📍MATSUMOTO
🚄นั่งรถไฟไป Matsumoto
-ไปถึงเมืองมัสซึโมโต้ ช่วงบ่ายๆ
จริงๆแล้วตามแพลน จะเดินไปเที่ยว ปราสาท Matsumoto ปราสาทชื่อดังของเมืองนี้ แต่!!ฝนเจ้ากรรม ตกอีกแล้ว สรุปว่าอดไปอีกแล้วจ้า แพลนที่ฉันวางมา 😭
🏨พักที่ Premier cabin Hotel Matsumoto
🚗Day 8 // 📍MATSUMOTO
-จริงๆ ตามแพลนคือต้องไปคามิโกจิ แต่พายุบัวลอยเข้า เราเลยจำเป็นต้องเลื่อนไปลุ้นอีกวันแทน พังจ้าพัง เดินห้างช้อปปิ้งวนไป ไปไหนไม่ได้เลยค่าทุกคน
🏨พักที่ Premier cabin Hotel Matsumoto
🚗Day 9 //📍KAMIKOCHI
🚎เรานั่งบัส Alpico จากสถานี Matsumoto ไป Kamikochi
รอบรถ 05.30 – 07.05
– เราเลือกลงสถานี Taisho pond เพราะจะได้เดินเที่ยวเลย แบบไม่ต้องย้อนไปย้อนมา
เริ่มเที่ยวตั้งแต่ Taisho pond เดินประมาณ 3.5 กิโล ไปสุดทางที่ สะพานกัปปะ แล้วขึ้นรถกลับได้เลย เราว่าเดินแบบนี้เวิร์คมาก สำหรับคนอยากเที่ยวครบๆ และเดินรอบเดียว
🚎กลับมามัสซึโมโต้
🚄นั่งรถไฟไปนาโกย่า
-ตามแพลนเย็นต้องไปเที่ยวเทศกาลไฟ Nabana no sato แต่เนื่องจากเราเปลี่ยนมาไปคามิโคจิวันนี้ทำให้เราต้องต้องทิ้งงานไฟไป น่าเศร้าใจมาก 😞
🚗Day 10 //📍สนามบินนาโกย่า
วันสุดท้าย กลับบ้านแล้วจ้า ตื่นมาขึ้นรถไฟไปสนามบิน จากสถานีนาโกย่า ใช้เวลาแค่ 30นาทีเท่านั้น ไวมาก ส่วนที่สนามบินนาโกย่า ร้านอาหาร ของฝาก ก็มีครบ เผื่อใครอยากซื้ออะไรเพิ่ม ก็มีจ้า
เราบิน นาโกย่า-ดอนเมือง
เที่ยวบินที่ XJ639 10.50-15.35
✈️ โดยทริปนี้เราเลือกไปลงที่ สนามบินนาริตะ แล้วกลับที่ สนามบินนาโกย่า ด้วยสายการบิน ไทยแอร์เอเชียเอ๊กซ์ เลือกไป-กลับคนละเมืองได้ สะดวกสุดๆ จองได้เลยที่ www.airasia.com
🚄 ส่วนใครหลายคน อาจจะงงๆ ว่าไหนบอกเป็น Roadtrip ขับรถเที่ยว แต่ทำไมซื้อ JR PASS แบบ 7 วัน ทำไม
>> เหตุผลก็คือ
1.เราไปลงที่โตเกียว แล้วเราเริ่มขับรถเที่ยวจาก อาโอโมริ เอาแค่นั่งชินกันเซ็นจากโตเกียวไปอาโอโมริ ก็คุ้มแล้วจ้า
2.เราเที่ยวหลายเมือง และแต่ละเมืองค่อนข้างไกล ถ้าขับรถข้ามเมืองบางเมือง ใช้เวลาถึง3-4ชม. แต่ถ้าเรานั่งรถไฟ ใช้เวลาแค่45นาที-1ชม. ทำให้ประหยัดเวลาไปเยอะมากกกก
3.ค่าเช่ารถ ถูกลงมากๆ เพราะเรานั่งรถไฟในการเปลี่ยนเมือง เราเลยเช่ารถแบบ รับ-คืนรถ ที่จุดเดียวกัน จะถูกกว่ารับ-คืนรถ ต่างเมืองจ้า
**โดย JR PASS เราซื้อจากเมืองไทยจาก Klook ถูกกว่าเยอะ แถมมีโปรโมชั่นออกมาบ่อยด้วยนะ
📌📌 หากใครสนใจอยากจะซื้อ Jr Pass สามารถกดเข้าลิ้งนี้ได้เลยจ้า ➡️➡️ http://bit.ly/2NnWpeV
🚙 ส่วนการเช่ารถขับเที่ยวที่ญี่ปุ่น
เราเลือกใช้บริการของทาง ToCoo Rent a Car
ToCoo Rent a Car เป็นบริษัทให้บริการด้านรถเช่าอันดับต้นๆของญี่ปุ่น มีรถให้เลือก มากมาย หลายยี่ห้อ หลายขนาด มีจุดให้เลือกรับรถทั่วญี่ปุ่น สะดวกมากๆ
📌📌 จุดเด่นของ ToCoo! ที่แตกต่างกับเจ้าอื่นๆนั้นก็คือ มีขายในส่วนของบัตรเหมาค่าทางด่วนทั่วประเทศด้วย อันนี้ประหยัดไปมากๆ แถมสิ่งที่ดีงามอีกข้อคือ หากเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน ทาง ToCoo! มี ฝ่าย Customer Support ชาวไทย ที่รับแจ้งเหตุและให้ความช่วยเหลือเป็นภาษาไทยด้วย
➡️➡️ เว็บของ ToCoo! มีภาษาไทยรองรับแล้วน้า
หากใครกำลังมีแพลนจะไปขับรถเที่ยวที่ญี่ปุ่น กดจอง และ ใส่โค้ดส่วนลด ตามลิงก์ด้านล่างนี้ได้เลยจ้า ⬇️⬇️
https://www2.tocoo.jp/th?asp_id=913
โค้ด Coupon ส่วนลด 1000 เยน : V55XS6
⬆️⬆️ คลิกที่ลิ้ง เพื่อจองรถ แล้ว ใส่โค้ดด้วยน้า ⬆️⬆️
✅ประกันภัยการเดินทาง
ในทริปนี้เราเลือกใช้ประกันภัยการเดินจาก MSIG ประกันเดินทาง แบบรายเที่ยว แผน Easy 3
แบบเดิมที่เคยใช้ตอน ทริปซากุระ เมื่อเดือน เมษา ที่ผ่านมาเลยจ้า เคยใช้แล้วประทับใจ คราวก่อนมีเรื่องต้องเครม
ก็ทำเครมได้ง่าย รวดเร็วไม่งอแง ราคาประกันภัยก็ตกคนละ 760 บาท ในทริปนี้ แถมได้บัตรกำนัลจากสตาร์บัค คนละ 100 บาทด้วย
ใครสนใจตัวประกันการเดินทางของ MSIG ก็สามารถเข้าไปเข้าไปตามลิ้งนี้ได้เลยจ้า http://bit.ly/TravelsAgain
📱Sim Net
เราใช้ Sim2fly ของ Ais จ้า สัญญาณดีไว้ใจได้ไปญี่ปุ่นก็ใช้ ซิมเดิมโปรเดิมตลอด
โปรที่ใช้เป็นโปรใหม่ 399บาท ได้เน็ต 6gb ใช้ได้10วัน ครอบคลุมวันที่เราเดินทางพอดี ไม่ต้องกังวลเรื่องวันหมดก่อน ใช้สบายใจกันไปยาวๆ
📸กล้องที่ใช้ถ่ายในทริป
ในทริปนี้เราได้ใช้กล้อง Panasonic Lumix G95 และ Panasonic Lumix TZ220 โดย เจ้าตัว G95
เป็นกล้องรุ่นใหม่ล่าสุดจากทาง Panasonic กล้องตัวนี้เล็กเบาใช้ง่าย เราใช้ทั้งถ่ายภาพ และ บันทึก VDO ในทริปนี้
ขอแอบบอกว่า กันสั่นเจ้าตัว G95 คือดีงามมากๆเดินถือถ่าย VDO ภาพในคลิปนิ่งสุดๆ ดีงามอันนี้ชอบๆ
ส่วนเจ้าตัวเล็ก TZ220 ตัวนี้เล็กจิ๋วแต่เป็นกล้องที่ใช้สะดวก สามารถซูมถ่ายได้ไกลสุดๆ คุณภาพ ภาพถ่ายที่ได้ก็ถือว่าใช้ท่องเที่ยวได้สบายๆ
กล้องทั้ง 2 ตัวที่ได้ลองใช้มาตลอดทริป มันเป็นกล้องที่เหมาะกับการพกพาไปเที่ยวมากๆ เพราะน้ำหนักเบา พกพาง่าย ไม่เป็นภาระ
ทำให้เราขยันที่จะหยิบกล้องออกมาถ่ายภาพมายิ่งขึ้น ไม่รู้สึกว่ามันหนักจนแบบไม่อยากหยิบ ทำให้ในทริปนี้ได้ภาพสวยๆที่เราถูกใจกลับมามากทีเดียว
ทางเรา ต้องขอขอบคุณ Panasonic Thailand / Lumixfriend ที่ใจดีให้เราได้นำกล้องทั้ง 2ตัวมาออกทริปถ่ายรูปในครั้งนี้ด้วยครับ
📷 อุปกรณ์กล้องที่ใช้ในทริปนี้
ครั้งนี้เราถ่ายทั้งภาพ และ VDO โดยอุปกรณ์ที่ช่วยทำให้งานเราสะดวกมากยิ่งขึ้นก็จะมี
1.ขาตั้งกล้อง โดยทริปนี้เราเลือกใช้ ขาตั้งกล้องของ manfrotto รุ่น Manfrotto Element Traveller Tripod Small แบบ Carbon Fiber
ขาตั้งกล้องอันนี้อยากแนะนำใครที่ชอบเที่ยวแล้วอยากพกขาตั้งกล้องเบาๆ ตัวนี้คือดีมาก เบามาก แข็งแรง เหมาะกับทริปเบาๆ เราสองคนใช้ขาตั้งกล้องทุกครั้งที่ต้องถ่ายภาพคู่กัน โดยบางทีที่เราหาคนช่วยถ่ายให้ไม่ได้หรือบางทีให้คนช่วยถ่ายแล้วเราไม่ค่อยไว้ใจกลัวเค้าถ่ายไม่ดี ขาตั้งกล้องนี้ละ จะช่วยให้เราได้ภาพที่ถูกใจได้ง่ายๆ
หากใครสนใจก็สามารถสอบถามเพิ่มเติมได้ที่ เพจ Manfrotto Thailand หรือ ร้านขายกล้องใกล้บ้านได้เลยจ้า
2.ไมโครโฟน ที่ใช้บันทึกเสียงใน Vlog ทริปนี้เลือกใช้ ไมโครโฟนจิ๋ว Saramonic-SR-XM1 เป็นไมโครโฟนที่เล็กมากๆ เวลาติดกับกล้องแล้วถือถ่ายไม่เป็นจุดสนใจ
บ่อยครั้งที่ใช้ ไมโครโฟนใหญ่ๆแล้ว เวลาเดินไปไหนคนมักจะมอง พอเป็น ไมโครโฟนจิ๋วๆแบบนี้ทำให้เราทำงานได้สะบายขึ้น อันนี้ดีงามแนะนำๆ เจ้าตัว ไมโครโฟนจิ๋ว Saramonic-SR-XM1 นี้หากใครสนใจ ลองเข้าไปดูที่ร้าน ZoomCamera ทางร้านมีแบบช้อปออนไลน์ด้วยน้า ราคาไม่แพง พันนิดๆเอง คุณภาพเสียงใช้ได้เลย
🍁🍁มีใครอ่านมาถึงตรงนี้แล้วบ้างเอ่ย ^^ ต้องขอขอบคุณทุกๆคนที่เข้ามาอ่านในรีวิวทริปนี้ หวังว่าทุกข้อมูลจะเป็นประโยชน์กับทุกๆคน เผื่อใครอยากจะไปเที่ยวแนวนี้ จะได้เอาข้อมูลตรงนี้ไปปรับใช้ให้เข้ากับตัวเอง แล้ว หากใครมีจุดเที่ยวจุดไหนน่าสนใจ ไม่ว่าจะทั้งในและต่างประเทศ
ก็คอมเมนต์แนะนำพวกเราได้น้า เพื่อว่าเราจะได้ไปตามรอย ตามสถานที่สวยๆที่เพื่อนๆเคยไปมากันแล้วบ้าง
สุดท้ายนี้ หากใครชอบคอนเทนต์แบบนี้ก็ ฝากไลค์ ฝากแชร์ ด้วยน้า ขอบคุณมากกกก กราบบบบบ