Travel,  เที่ยวต่างประเทศ

รีวิวอินโดนีเซีย | ตามหาลมหายใจของเทพเจ้า ที่สวยจนหยุดหายใจ ที่ภูเขาไฟ Bromo

Share

ทริปตามความฝันที่สักครั้งจะไปตามหา ภาพภูเขาไฟที่อยู่ทามกลางทะเลหมอก วิวโดยรอบเหมือนเราหลงไปอยู่ดาวอังคาร

“โบรโม่” ชื่อนี้ สำหรับบางคนอาจจะไม่รู้จักว่ามันคือที่ไหน แต่สำหรับนักเดินทางแล้ว ที่นี่ ถือว่าเป็น หนึ่งใน dream destination ของคนทั่วโลก ภาพของกลุ่มภูเขาไฟ ที่มีควันพุ่งออกมา พร้อมทะเลหมอกรอบๆ ไม่ว่ามุมไหน ไม่ว่าใครก็ถ่ายรูปออกมาสวยทุกคน..

🌋ภูเขาไฟโบรโม่ ตั้งอยู่ใน อุทยานแห่งชาติโบรโมเทงเกอร์เซเมรู เป็นส่วนหนึ่งของเทือกเขาเทงเกอร์มาสซีฟ บนเกาะชวาตะวันออก ยอดภูเขาไฟนี้มีความสูง 2,329 เมตร อยู่ไม่ไกลจากบ้านเรา แค่”อินโดนีเซีย”🇮🇩แต่บางครั้งเรายังแทบไม่เชื่อสายตาตัวเอง ว่าที่แบบนี้อยู่แค่อินโดนีเซียเองหรอนี่..โบรโม่ เป็นภูเขาไฟที่ยังไม่ดับ ยังมีการปะทุเกิดขึ้นอยู่บางครั้ง แต่ไม่อันตรายค่ะ

🌋ในทริปนี้ เราเดินทางวันที่ 20-24 ก.ค.2017 ที่วางแผนไว้เป็นเดือนนี้ เพราะเค้าว่ากันว่าโบรโม่เดือนนี้สวยที่สุด ทริปนี้เราเลือกที่จะอยู่ที่โบรโม่ ทั้งทริปเพราะเราตั้งใจจะเก็บภาพโบรโม่หลายๆมุม และเผื่อสภาพอากาศที่ไม่แน่นอน บวกกับมีเวลาแค่3คืน เลยตัดสินใจทิ้งคาวาอีเจี้ยนไป จะได้ไม่เหนื่อยเกินไปค่ะ

🌋✈️เนื่องจากไม่มีเที่ยวบินตรงไปลงสุราบายา แต่จะมีหลายๆตัวเลือกว่าจะต่อเครื่องแบบไหน เวลาไหน สามารถปรับให้ตรงกับความสะดวกได้ค่ะ สำหรับเราการเดินทางเริ่มต้นที่
🛫ดอนเมือง (20.55) – จาการ์ตา (00.25) แวะเปลี่ยนเครื่องที่จาการ์ตา จาการ์ตา(5.45) – สุราบายา(7.15) ส่วนขากลับ
🛬สุราบายา(12.25)-กัวลาลัมเปอร์(16.05) แวะเปลี่ยนเครื่องที่กัวลาลัมเปอร์ กัวลาลัมเปอร์(20.40)-ดอนเมือง(22.00)

🌋🚙ส่วนการเดินทางที่อินโดนีเซีย เราจ้างไกด์ซึ่งได้ติดต่อไว้ล่วงหน้าตั้งแต่เมืองไทยแล้วค่ะ การเดินทางจากสนามบินไปที่พักที่โบรโม่จะเป็นรถตู้ค่ะ ส่วนการเดินทางที่โบรโม่ส่วนใหญ่จะใช้รถจี๊ปค่ะ ซึ่งค่าใช้จ่ายจะขึ้นอยู่กับจำนวนผู้ร่วมทริปค่ะ ซึ่งค่าไกด์
จะรวมค่ารถรับ-ส่งสนามบิน / ค่ารถจี๊ปขึ้นเขา / ค่าน้ำมัน /ค่าคนขับ / ค่าเข้าสถานที่ / อาหารว่างบางมื้อ
ยกเว้นค่าที่พักที่เราจองกันเองไว้แล้ว ไม่รวมค่าอาหาร / ไม่รวมค่าทิป /ไม่รวมค่าขี่ม้า
👨🏻ไกด์เราชื่อ Dimas Purwadi ดูแลเราดีมากๆ ประทับใจ แนะนำมากๆค่ะ

เฟส ไกด์ เพื่อใครสนใจ อยากติดต่อให้นำเที่ยวจ้า https://www.facebook.com/dimas.purwadi.3

📍📍จุดที่ห้ามพลาด!!
▪️Penanjakan view point
▪️ทุ่งสะวันนา
▪️Seruni view point
▪️ขึ้นปากปล่องโบรโม่

💰💰ค่าใช้จ่ายต่อ/คน ขออนุญาตคิดเป็นเงินไทย เพื่อให้ง่ายต่อการคำนวนนะคะ
✈️ค่าตั๋วเครื่องบินไป-กลับ = 7,000-9,000บาท/คน *ขึ้นอยู่กับสายการบินที่เลือก และช่วงเวลาที่จองค่ะ ของเราในทริปนี้ ใช้สายการบิน “Airasia” ทั้งหมดค่ะ
🛏ค่าที่พัก 3 คืน “Bromo Permai Hotel”= 2,500บาท/คน (นอนห้องละ3-4คน)
👨🏻🚌🚙ค่าไกด์+ค่ารถ ตลอดทริป = 5,000 บาท/คน ค่ากินอยู่ระหว่างทริป = 2,000บาท/คน ค่าทิปไกด์+คนขับรถ = 650บาท/คน “”สรุปค่าใช้จ่ายรวมทุกอย่างแล้ว โดยประมาณ = 18,000 บาทค่ะ (บวกลบไม่เกิน2,000)””
**💰💰ค่าเงิน 1,000รูเปียร์ = 2.6 บาท (ก.ค.2017)

🌤“สภาพอากาศ”
กลางวัน: 18-25องศา ไม่ร้อนแต่แดดแรง
กลางคืน/ขึ้นเขา: 8-13องศา หนาวและมีลมค่ะ

ทิ้งท้ายก่อนพาไปเที่ยวกันนน..
💙🖼ส่วนใหญ่เวลาไปเที่ยวไหน คนมักจะบอกว่าไม่เห็นสวยเหมือนในรูปเลย แต่บอกเลยว่า ใช้ไม่ได้กับที่นี่ ที่นี่รูปสวยแค่ไหนของจริงเมื่อไปเห็นกับตา **คูณไป10เท่าค่ะ ไม่ได้เว่อร์ค่ะ..เพราะถ้าคุณได้ไปเจอแบบที่เราเจอ คุณจะเข้าใจคำว่า “สวยจนหยุดหายใจ” 😲
“พาตัวเองออกไปดูโลกกว้าง แล้วคุณจะรู้ว่าธรรมชาติมหัศจรรย์แค่ไหน”

ป่ะๆเราไปดูภาพที่เราสองคนเอามาฝากเพื่อนๆดูกันดีค่ะ ^^

ทีนี้เรามาทำความรู้จักกลุ่มภูเขาไฟโบรโม่กันก่อนดีกว่าจ้า…
ภูเขาไฟโบรโม่ เรามักจะเข้าใจผิดกันว่าเป็น ภูเขาไฟลูกแรกข้างหน้าสุด แต่ไม่ใช่ค่ะ
“ภูเขาไฟ Bromo” เป็นภูเขาไฟที่เตี้ยที่สุดในกลุ่มทั้งหมด สังเกตง่ายๆคือภูเขาที่มีควันออกมานั่นแหละค่ะ จะอยู่ซ้ายมือและมีปากปล่องที่กว้างที่สุดค่ะ
“ภูเขาไฟ Batok” เป็นภูเขาไฟที่ดับแล้ว อยู่ข้างหน้าสุด แต่รูปทรงสมมาตร และเด่นที่สุดค่ะ
“ภูเขาไฟ Semeru” เป็นภูเขาไฟที่สูงที่สุด และจะพิเศษตรงที่ ทุกๆ15-20นาที จะปล่อยควันออกมา และยังสามารถ trekking ขึ้นยอดเขาเซเมรุ ได้อีกด้วย แต่เราคงไม่ไหว หากใครสนใจก็ลองหาข้อมูลแล้วไปลุยกันนะคะ 555 ^^

ทริปนี้เราเดินทางไปกับแอร์เอเชีย เหมือนเช่นเคยย

เริ่มต้นจากสนามบินดอนเมือง

QZ253 (20.50-00.15) ดอนเมือง-จาการ์ตา ใช้เวลาบิน 3.30 ชม.

แวะรอต่อเครื่องใครจะนอนก็นอนรอค่ะ แต่เราไม่นอนเพราะนอนไม่หลับ 555

XT7688 (05.45-07.15) จาการ์ตา-สุราบายา ใช้เวลาบิน 1.30 ชม.

ไปถึงเช้าพอดี เที่ยวกันได้เลยค่ะ

เช้าวันแรก ตื่นกันตี2 ไม่เช้าเท่าไหร่ค่ะ แค่บางคนอาจยังไม่นอน มาขึ้นเขาไปจุดชมวิวที่สวยที่สุด “Penanjakan” เป็นจุดไฮไลท์ที่ต้องมา ยืนตั้งขาตั้งกล้องตั้งแต่ตี3ค่ะ คนเยอะมากๆ ในความมืดมืดระหว่างระพระอาทิตย์ขึ้น เราก็ได้แต่ลุ้นว่าจะมีทะเลหมอกมั้ย จะสวยเหมือนที่เราคาดหวังไว้มั้ย พอตี5 ฟ้าเริ่มสว่าง OMG!! ภาพตรงหน้าเรา สวยจนบรรยายไม่ถูก ทะเลหมอกมาตามนัด ในที่สุด Mission Completed ……กลับบ้านได้ อ่อยังๆ เพิ่งมา และเพิ่งมารู้ทีหลังว่าแบบนี้ไม่ได้มีทุกวันนะคะ ถือว่าโชคดีมากกก เพราะบางคนมาหลายรอบยังไม่เจอแบบนี้เลยค่ะ

ในรูปนี้คือ มุมในฝัน ที่ตามหา เคยเห็นรูปจากอินเตอร์เน็ต จนต้องไปตามหาว่ามันคือที่ไหน ที่นี่คือ หมู่บ้าน “Cemoro Lawang” คือหมู่บ้านที่เราพักนั่นเองค่ะ ถ้าจากจุดชมวิวมองไปทางซ้ายจะเจอค่ะ ยิ่งมาเจอพร้อมทะเลหมอกแบบนี้ สวยยิ่งกว่าที่คิดไว้อีกค่ะ

มาดูปล่องโบรโม่กันชัดๆบ้าง มีมนต์ขลังมากๆ
บางทีก็ไม่คิดว่า ตัวเองจะได้มาดูภูเขาไฟแบบนี้สักครั้งในชีวิต


Share